วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การประเมินการอาจารย์ผู้สอนวิชานี้

1.ความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชานี้
ตอบ ทำให้รู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาการศึกษาต่างๆในอดีต  วิวัฒนาการการศึกษาต่างๆ  พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติและระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ได้ประสบการณ์เกี่ยวกับการเรียนการสอนในปัจจุบันว่ามีความสำคัญอย่างมาก และยังได้ความรู้ในการจัดทำบล็อก

2.การนำเทคโนโลยีบล็อกมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนนักศึกษาเห็นว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
ตอบ  ข้อดี คือ ทำให้สะดวกในการเรียนการสอนทั้งสื่อการเรียนการสอนและการปฏิบัติงาน
ข้อเสีย คือ ถ้าระบบอินเทอร์เน็ตล่ม อาจจะทำให้เกิดการติดขัดและล่าช้าในการเรียนการสอน และถ้ากำลังจะเผยแพร่งานจะทำได้ลำบาก และอาจจะมีข้อผิดพลาดได้

3.บอกความรู้สึกต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เว็บบล็อก
ตอบ  ชอบการใช้บล็อก รู้สึกสะดวกสบายในการทำงาน  ทำให้ไม่ต้องลำบากถ้าเกิดจะพิมพ์แทนการเขียนและทำให้รู้จักการใช้เทคโนโลยีในปัจจุบันได้มากขึ้น

4.ถ้าประเมินอาจารย์ผู้สอนวิชานี้ เกรด A,B,C จะให้ระดับใด เหตุผล

ตอบ  เกรด A เพราะอาจารย์สามารถนำสื่อการเรียนการสอน โดยใช้เว็บบล็อกซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นที่นิยมในยุคปัจจุบันมาปรับใช้ได้เหมาะสมและน่าสนใจ

ครูในดวงใจ


ชื่อ-นามกุล นางกมลทิพย์ นวลเจริญ
นิสัย เป็นครูที่น่ารัก เป็นกันเอง เข้าใจนักเรียน ไม่ถือตัว สอนเข้าใจ
ตำแหน่ง ครู
วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ
วิชาเอก ศษ.ม ภาษาไทย
สถานที่ทำงาน โรงเรียนชะอวด
วุฒิการศึกษาสูงสุด ปริญญาโท
ประวัติการศึกษาล่าสุด จบปริญญาโท เอกบริหารการศึกษา จากกรุงเทพธนบุรี

บทสัมภาษณ์
คิดว่าอาชีพครูมีความสำคัญอย่างไรบ้าง
                อาชีพครู ถือเป็นงานที่มีเกียรติและเป็นงานที่สร้างคนให้กับสังคม ครู คือบุคคลที่มีหน้าที่ หรือมีอาชีพในการสอนนักเรียน เกี่ยวกับวิชาความรู้ รวมถึงการปฏิบัติและแนวทางในการทำงาน โดยวิธีในการสอนจะแตกต่างกันออกไปโดยคำนึงถึงพื้นฐานความรู้ ความสามารถและเป้าหมายของนักเรียนแต่ละคน สามารถสร้างคนให้เป็นไปในทางใดก็อยู่ที่ครูเป็นผู้สอน

แนวคิดในการทำงาน
                ในการสอนหรือการถ่ายทอดความรู้แก่ศิษย์ ไม่เพียงแต่ในความรู้ แต่ยังสอนให้รู้จักการทำงานเป็นทีม รู้จักความสามัคคีในหมู่คณะ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และการทำให้ศิษย์มีความสุขกับการเรียนการทำกิจกรรมควบคู่กันไปเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง คือการเรียนไปด้วยและเล่นไปด้วยอย่างมีความเหมาะสม

ปรัชญาของการเป็นครู
ถ่ายทอดความรู้ที่ตนมี ให้ศิษย์ทุกคนอย่างเต็มที่ และคอยดูความสำเร็จของศิษย์อย่างภาคภูมิใจ

อุดมคติของการเป็นครู
                การที่สามารถจะเป็นครูได้จะต้องมีความสามารถ มีความรักในอาชีพครู เหมือนเรือจ้างที่คอยส่งศิษย์ทุกคนให้ถึงฝั่งมองดูความสำเร็จของศิษย์ คอยให้คำปรึกษาแก่ศิษย์ และสั่งสอนให้ศิษย์เป็นคนดีของสังคม

เป้าหมายสูงสุดของการเป็นครู

                อยากเห็นลูกศิษย์ของครูทุกคนเป็นคนดีของสังคม และเห็นศิษย์ประสบความสำเร็จในชีวิต       

         

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ทดสอบกลางภาคเรียน

ให้นักศึกษาทำข้อสอบต่อไปนี้ ลงในบล็อกของนักศึกษา 20 คะแนน

1. การศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีสาระสำคัญอะไรบ้าง

ตอบ ยุคนี้การจัดการศึกษายังไม่มีระบบและแบบแผน คือ ไม่มีระบบโรงเรียน และชั้นเรียน วัดเป็นแหล่งให้ความรู้ มีพระภิกษุเป็นผู้สอนให้ความรู้ เพียงเพื่อประกอบอาชีพ   วิชาความรู้ส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดไม่มีการจดบันทึกไว้ จะใช้ความสามารถในการท่องจำมากกว่า     
ผู้ชายนิยมบวชเรียน ส่วนผู้หญิงนิยมเรียนเย็บปักถักร้อย สถานที่เรียนมี 4 สถานที่ คือ 
1).บ้าน บิดามารมีหน้าที่บ่มเพาะบุตรหลานเป็นบุคคลที่ดี
2). วัด ป็นสถานที่ที่ศึกษาสำหรับผู้ชายเป็นพระเพื่อศึกษาพระไตรปิฏก จริยธรรม คุณธรรม ส่วนผู้หญิงจะเรียนที่หอเรือน ศึกษาเกี่ยวกับฝึกความเป็นกุลสตรี การเย็บปักถักร้อย เพื่อจะเป็นภรรยาที่ดีของสามี
3). สำนักราชบัณฑิต สำหรับผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ ศึกษาวิชาชีพที่สูงขึ้นมา 4). วัง ศึกษาเกี่ยวกับยุทธหัตถี การปกครองบ้านเมือง

2.สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยาจัดการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

ตอบ เหมือนกัน เพราะยังมีการใช้วัดเพื่อที่จะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา เป็นแหล่งให้ความรู้  และยังมีพระภิกษุเป็นผู้ให้ความรู้  ผู้ชายจะเรียนที่วัดเกี่ยวกับ การอ่าน การเขียน การรบ โดยการบวชเรียน ส่วนผู้หญิงเรียนที่บ้าน เกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อย

3.อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการจัดการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง

ตอบ มีการสอนวิธีรบแบบชาติตะวันตก สอนการต่อเรือ นำตำหรับยามาเผยแพร่  สอนวิชาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส  การก่อสร้าง

4.การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ เริ่มนำวิทยาการใหม่ๆเข้ามา  มีการจัดพิมพ์ตำราเรียน เป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปการศึกษาของไทยในสมัยต่อมา

5.แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่ออะไร เกิดขึ้นในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ ชื่อ “ จินดามณี”  เกิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตรงกับรัชกาลที่ 27 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ประมาณ พ.ศ.2199 – 2231  มีที่มาจากการที่ ฝรั่งเศสได้มาติดต่อค้าขาย เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรก และสอนวิชาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ต่อเรือ การก่อสร้าง พระองค์เกรงว่าคน ไทยจะหันไปเข้ารีตและนิยมฝรั่ง  ทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดี แตงหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็น ของตนเอง ชื่อ “จินดามณี” ใช้เริ่มอ่านจนกระทั่งหัดเรียนรู้วรรณคดีและอักษรศาสตร์ไทยชั้นสูง

6.การจัดการศึกษาภาคบังคับมีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย และให้เหตุผล

ตอบ การศึกษานั้นมีสองภาคคือ ภาคการศึกษาสำหรับทวยราษฎร์ ได้แก่ ประถมศึกษา เป็นการศึกษาภาคบังคับ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญศึกษาและวิสามัญศึกษา  และภาคศึกษาพิเศษ เรียกว่ามัธยมศึกษา เรียนทั้งสามัญและวิสามัญ ไม่บังคับให้เรียนทุกคน

7.การศึกษาที่เรียกว่ามาติกาศึกษาเป็นอย่างไร จงอธิบายและยกเหตุผล

ตอบ การศึกษามีศูนย์กลางอยู่ที่วัดเหมือนสมัยอยุธยา ซึ่งการจัดการศึกษาที่เรียกว่า มาติกาศึกษา มีอยู่ 8 มาติกา คือ
  1 ตำบลที่เล่าเรียนคือที่ตั้งของวัด
  2 โรงเรียนคือ ที่เรียนในวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์
  3 นักเรียนและครู มี 3 ประเภทคือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
  4 เวลาเรียนคือ ตอนพระว่าง
  5 เครื่องเล่าเรียนคือ กระดานชนวน ดินสอพอ กระดาษข่ายเป็นต้น
  6 วิชาหนังสือคือ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ
  7 วิชาเลขคือ เลขคณิตวิธีต่าง ๆ
  8 ข้อบังคับการเรียนคือ ระเบียบวินัย การลงโทษ และการชมเชย

8.การศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบายและยกเหตุผล
ตอบ สมัยรัชกาลที่ 5 เพราะ จะได้ทัดเทียมประเทศอื่นเพื่อที่จะไม่ล้าหลัง และเป็นการป้องกันการล่าอาณานิคมจากชาติตะวันตก

9.การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบายและยกเหตุผล

ตอบ เห็นด้วย เพราะ ปัจจุบัน มีสื่อต่างๆและเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ทำให้ง่ายและเอื้ออำนวยความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า  เป็นการเสริมสร้างความรู้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์ และการนำไปใช้ให้ได้ถูกทางตามความเหมาะสม

10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาสู่ยุคสมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ มียุทธศาสตร์ที่สำคัญ  คือ การเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียน  พัฒนาศักยภาพของนักการศึกษา ครู และ บุคลากรทางการศึกษา  เพิ่มคุณภาพการศึกษา การจัดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู  จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัตน์   เพื่อพัฒนา การศึกษา  สนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม

วีดีโอการศึกษา

1. ชื่อเรื่อง ผมเกลียดโรงเรียน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้    
    บุคคลที่ประสบความสำเร็จล้วนไม่มีหยุดการเรียนรู้ โดยโรงเรียนเปรียบ
เหมือนล๊อคเกอร์และการศึกษาเปรียบเป็นกุญแจ แต่ส่วนใหญ่อาจารย์ไม่เคยสอนให้นักเรียนคิดนอกกรอบหนังสือ ทำให้เด็กคิดนอกรอบไม่เป็น ตรงกับสุภาษิตว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะจ่ายการเพื่อคนบ้า เพราะพวกเขาไม่มีสามัญสำนึกและไม่ควรเรียนเพื่อรับใบปริญญา คือ กระดาษแผ่นเดียวเท่านั้น
ข้อคิดที่ได้    
    ควรวางเป้าหมายในการเรียนให้ชัดเจนและต้องลงมือปฏิบัติจริงตามแผนการ
2. ชื่อเรื่อง สตีฟ จ็อบส์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้    ต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในบางสิ่งบางอย่างอย่างแน่วแน่ เพราะความเชื่อที่เรามีต่อจุดแต่ละจุดนั้น ในที่สุดมันจะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันเอง และมันจะให้ความมั่นใจทำตามสิ่งที่หัวใจคุณต้องการ ถึงแม้บางครั้งมันอาจจะพาคุณออกนอกเส้นทางบ้าง และสิ่งนั้นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน 
ข้อคิดที่ได้    
    แรงบันดาลเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและแรงบันดาลเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีกันทุกคน เพื่อให้ถึงเป้าหมายข้างหน้า
3. ชื่อเรื่อง บิล เกตต์
ข้อสรุปประเด็นที่ได้  
    ข้อที่ชีวิตของคนเรานั้นไม่เท่าเทียมเท่าไร  
    ข้อที่ความสำเร็จที่เกิดจากตัวคุณเอง    
    ข้อที่อย่าหวังว่าเรียนจบแล้วจะได้ทำงานเงินเดือนเยอะ     
    ข้อที่การทำงานน่าเบื่อสุด     
    ข้อที่การคิดคำสแลงใหม่ไม่ใช่ความผิด    
    ข้อที่จงเรียนรู้ความผิดพลาด     
    ข้อที่จงช่วยกันแบ่งเบาภาระแก่ครอบครัว     
    ข้อที่ชีวิตเป็นการลองผิดหรือลองถูก   
    ข้อที่ไม่มีวันหยุดให้เหมือนเรียนหนังสือ     
    ข้อที่10 จงเชื่อสิ่งที่เป็นจริง   
    ข้อที่11 มีมิตรภาพกับความเนิร์ด
ข้อคิดที่ได้
    การประสบความสำเร็จในหน้าที่ควรเริ่มจากสิ่งเล็กๆก่อนและจงก้าวอย่างระมัดระวัง
4. ชื่อเรื่อง อิชิตัน
ข้อสรุปประเด็นที่ได้   
     ผมว่าการที่ประสบความสำเร็จได้นั้นมีความเชื่อว่าต้องลำบากก่อนถึงจะสบายในวันข้างหน้า โดยคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้นั้น ไม่ว่าใครก็ตามอยากมีอนาคตที่ดีเช่นนี้ ควรมีวิธีคิดติดลบให้เป็นบวกหรือการนำข้อผิดพลาดมาเป็นบทเรียน เพื่อที่เราจะไม่ต้องผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก
ข้อคิดที่ได้    
    การมองโลกในแง่ดี เป็นสิ่งที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จ  และความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ดาวเด่นของการศึกษา

1. ชื่อเรื่อง สัมภาษณ์ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ การเตรียมพร้อมเข้าสู้ AEC
องค์ความรู้ที่ได้
         เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้วประเทศไทยได้รับประโยชน์ด้านบวกมากกว่าด้านลบ ประเทศไทยเหมาะแก่การลงทุน และเป็นศูนย์กลางของการกระจายสินค้าการลงทุนต่างๆ มีความหลากหลายทางด้านต่างๆ แต่ต้องอาศัยความ และทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทยควรปฏิรูปการศึกษา วิทยาศาสตร์  ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการลงทุนมากพอที่จะสร้างฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประเทศต่อไปได้
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
         เราควรเตรียมพร้อมในการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารก่อนเปิด AEC
ข้อคิดที่ได้ 
             เราต้องเตรียมความให้พร้อมในทุกๆด้าน ก่อนที่จะถึงแล้วสูญเปล่าไป

2. ชื่อเรื่อง ประเทศไหนๆก็เร่งพัฒนาคน
องค์ความรู้ที่ได้
         ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการตื่นตัวมากที่สุดเกี่ยวกับAEC มีการฝึกภาษาอังกฤษและมรการไปศึกษาดูงานต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่ประเทศเพื่อนบ้านพวกเราทำอยู่ แต่เขาไม่ได้เตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC และเขานั้นได้มีการได้พัฒนาบุคลากรของเขาอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีทรัพยากรมนุษย์ที่ดีที่สุดของโลก เพราะชาวสิงคโปร์เป็นนักคิด นักลงทุน และผู้บริหารที่ดีเป็นอย่างมาก
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
         พัฒนาตัวเองมีความพร้อมในทุกๆด้าน และกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นและการคำนึงคิดที่ถูกต้องแบบสมเหตุสมผลกับสถานการณ์ เพื่อเข้าสู่AEC 
ข้อคิดที่ได้
          การที่พัฒนาได้นั้นต้องพัฒนาตั้งแต่จุดเล็กๆ ถ้าหากมีจุดบกพร่องให้รีบแก้ไข และพัฒนาไปอย่างตอเนื่อง

3. ชื่อเรื่อง ดาวเด่นด้านการศึกษาแห่งอาเซียน
องค์ความรู้ที่ได้
         ในบรรดาประเทศสมาชิกAEC ทั้งหมดนั้น ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุด เพราะมีรัฐบาลที่สนับสนุนการศึกษาอย่างเต็มที่ ทำให้คุณภาพการศึกษาของสิงคโปร์อยู่อันดับที่ 3 ของโลก การเรียนการสอนมีความทันสมัย และไม่ได้เน้นแค่วิชาการเพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นเรื่องของศีลธรรมและศิลปะควบคู่กันไปด้วย และการที่จะกล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตนเอง  สิ่งต่างๆ เหล่านี้จึงสะท้อนให้เห็นว่าคนสิงคโปร์นั้นมีคุณภาพสูง
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
          ฝึกตนเองให้ความรู้ มีการกล้าแสดงออก และคุณธรรมเพื่อพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้าต่อไปได้
ข้อคิดที่ได้
           ระบบการศึกษาที่ดีนั้นไม่ใช่แค่เน้นวิชาการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องเน้นการเรียนด้านอื่นๆควบคู่ไปด้วย

4. ชื่อเรื่อง ปฏิรูปการศึกษา เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์
องค์ความรู้ที่ได้
          ในบรรดาสมาชิกอาเซียนทั้งหมด ประเทศเวียดนาม  มีการเติบโตไปทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เปิดประเทศขึ้นมา แม้การปฏิรูปการศึกษาเวียดนามอาจใช้เวลาพอสมควรแต่โรงเรียนก็สามารถปรับตัวได้ การเรียนการสอนนั้นเน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลางมากขึ้น และมีการออกแบบรูปแบบการสอนใหม่ๆ เพื่อให้เด็กมีการพัฒนากระบวนการคิด  และเป้าหมายเดียวคือการยกระดับการศึกษาเพื่อพัฒนามนุษย์และพัฒนาชาติ
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
          ทำให้ตนเองมีการพัฒนาในทุกๆด้านเริ่มจากกระบวนการคิดและการตัดสินใจ
ข้อคิดที่ได้
           การศึกษาในด้านที่ชอบและถนัดด มีพัฒนาการคิดควบคู่กับวิชาการ จะช่วยพัฒนามนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพการ 

5. ชื่อเรื่อง ประเทศไทยอยู่ตรงไหนก็อาเซียน
องค์ความรู้ที่ได้
            จากการจัดลำดับการศึกษาในกลุ่มสมาชิกอาเซียน WEF ได้เผยข้อมูลว่าไทยอยู่ลำดับที่ 8 ของอาเซียน ซึ่งยังไม่นับรวมพม่าและลาว ซึ่งก็หมายความว่าประเทศไทยอยู่อันดับท้ายสุด  ประเทศไทยในทุกวันนี้มีสัดส่วนผู้รู้หนังสือเกินกว่าร้อยละเก้าสิบสาม เราจึงไม่ต้องกังวลเรื่องของการขยายโอกาสทางการศึกษา แต่ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญมากกว่านั้นก็คือ เรื่องของคุณภาพการศึกษา
 สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
            การพัฒนาตนเองในทุกด้านๆ ไม่ใช่แค่เพียงแค่การศึกษาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ข้อคิดที่ได้
          ความสามารถของทุกๆคนต่างไม่ไปกว่าด้อยกว่าคนไหน แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละบุคคลที่จะในพัฒนาตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

6. ชื่อเรื่อง สายสัมพันธ์ไทย - ลาว
องค์ความรู้ที่ได้
          ในบรรดาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยกับต่างประเทศนั้น ลาว หรือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มีพรมแดนติดกันทางตอนเหนือและตะวันออก โดยมีแม่น้ำเป็นเส้นทางหล่อเลี้ยงชีวิต  และถือเป็นประเทศที่มีสายสัมพันธ์กับไทยในลักษณะพิเศษกว่าชาติอื่น  เพราะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ด้วยภาษาของตนเอง และมีความคล้ายคลึงทางด้านขนบธรรมเนียมประเพณี ศาสนา และวัฒนธรรม  
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
            ได้เรียนรู้ว่าวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนทั้งสองประเทศที่มีความคล้ายคลึงกัน
ข้อคิดที่ได้
               จะแตกต่างกัน ก็สามารถที่จะพึ่งพาอาศัย เรียนรู้ รักใคร่สามัคคีและเอื้ออารีต่อกันได้

7. ชื่อเรื่อง เยือนถิ่นอิเหนา
องค์ความรู้ที่ได้
            ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในอาเซียน ทรัพยากรธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่สืบเชื้อชาติมาจากชาวมาเลย์ และมีความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม และการพูดของแต่ละชนเผ่าโดยที่ผ่านมานโยบายเศรษฐกิจของอินโดนีเซียมุ่งเน้นการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคง
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
               จะนำความรู้ด้านนโยบายมาใช้ในชีวิตประจำวัน

ข้อคิดที่ได้ 
               ประเทศจะเจริญได้ควรมีนโยบายที่เป็นธรรม

8.ชื่อเรื่อง เที่ยวฟิลิปปินส์
องค์ความรู้ที่ได้
            ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศเกาะที่มีความโดดเด่นทางความสวยงามของธรรมชาติ เพราะเป็นประเทศที่มีหมู่เกาะน้อยใหญ่จำนวนมากและมีความสวยงามของธรรมชาติ และอีกทั้งมีความโดดเด่นทางด้านเศรษฐกิจ ประเทศนี้จึงเป็นศูนย์กลางทางราชการ เศรษฐกิจและคมนาคมทางอากาศและทะเล การทำธุรกิจของประเทศนี้จะทำกันที่เกาะเซบูเป็นหลัก และที่นี้ยังเป็นปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวเกาหลีใต้ ชาวญี่ปุ่นและชาวจีน
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
            ได้เรียนรู้ความก้าวหน้าและความโดดเด่นของแต่ละประเทศในอาเซียนมาปรับใช้ของประเทศเรา
ข้อคิดที่ได้
               นำข้อบกพร่องมาพัฒนากับประเทศตนเองให้มากที่สุด

9. ชื่อเรื่อง เวียดนามเปิด เศรษฐกิจเกิด
องค์ความรู้ที่ได้
                ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นทางเศรษฐกิจ เวียดนามมีนโยบายเปิดตัวเองสู่โลกภายนอกมากขึ้น มีปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาวะการเมืองที่มั่นคง ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวอย่างรวดเร็วจุดเปลี่ยนสำคัญของเวียดนามคือการตัดสินใจมุ่งพัฒนาประเทศและมีชาวต่างชาติไม่น้อยเลือกเวียดนามเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ

สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
            มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติทำให้เราสามารถพัฒนาต่อเนื่องไปข้างหน้าได้
ข้อคิดที่ได้
              การเปิดการเรียนรู้ทางความคิดของประเทศอื่นๆ อย่างเสรี

10. ชื่อเรื่อง จับมือกันพัฒนาทั้งไทย-พม่า ได้ร่วมกัน
องค์ความรู้ที่ได้
           พม่าในยุคนี้สมัยนี้ถือได้ว่าเป็นปลายทางยอดนิยมของคนไทยเลยก็ว่าได้ สาเหตุหลักก็มาจากการนับถือศาสนาพุทธเหมือนกัน ที่นี้ก็มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่งและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศ มีความเติบโต และเจริญก้าวหน้าของประเทศ จึงได้มีการทำข้อตกลงต่างๆร่วมกัน  เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ด้วยการทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างไทยกับพม่า เป็นความตกลงเพื่อให้ทั้งสองประเทศนั้นมีเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ดีและ พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง 
              ศึกษาการร่วมมือการทำงานทั้งสองประเทศเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน
ข้อคิดที่ได้
               ประเทศจะมีการพัฒนานั้นต้อง มีการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพที่ดี

11. ชื่อเรื่อง ไทย-กัมพูชา ร่วมมือกัน
องค์ความรู้ที่ได้
            ไทย และกัมพูชามีความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ ทางการค้า ประเทศกัมพูชาเป็นประเทศที่มีการพัฒนาการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก  และการเชื่อมเส้นทางคมนาคมมุกดาหาร-สุวรรณาเขต-ดองฮา-ดานัง และเส้นทาง กรุงเทพ –พนมเปญ-โฮจิมินทร์ซิตี้-วังเตา เพื่อความสะดวกของประชาชนทั้งสองประเทศ
สิ่งที่นำไปพัฒนาตนเอง
           การเรียนรู้ความแตกต่างของแต่ละประเทศที่เป็นเพื่อนบ้านของเรา
ข้อคิดที่ได้
         การร่วมมือช่วยกันพัฒนาทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

วิวัฒนาการศึกษาไทย

แบบฝึกหัดบทที่  3 

วิวัฒนาการของการศึกษาไทย


1.แนวคิดทางการศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ  ยุคนี้การจัดการศึกษายังไม่มีระบบและแบบแผน คือ ไม่มีระบบโรงเรียน และชั้นเรียน วัดเป็นแหล่งให้ความรู้ มีพระภิกษุเป็นผู้สอนเพียงเพื่อประกอบอาชีพ   วิชาความรู้ส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดไม่มีการจดบันทึกไว้ใช้ความสามารถในการท่องจำมากกว่า      

2. สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา การจัดการศึกษาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย 
ตอบ  เหมือนกัน เพราะยังมีการใช้วัดเพื่อที่จะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา  และยังมีพระภิกษุเป็นผู้ให้ความรู้  ผู้ชายจะเรียนที่วัด เกี่ยวกับ การอ่าน การเขียน การรบ ส่วนผูหญิงเรียนที่บ้าน เกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อย

3. อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง 
ตอบ  มีการสอนวิธีรบแบบชาติตะวันตก สอนการต่อเรือ นำตำหรับยามาเผยแพร่  สอนวชิาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส  การก่อสร้าง

4. การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ  เริ่มนำวิทยาการใหม่ ๆเข้ามา  มีการจัดพิมพ์ตำราเรียน เป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปการศึกษาของไทยในสมยัต่อมา

5. แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ เกิดในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ  ชื่อ “ จินดามณี”  เกิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประมาณ พ.ศ.2199 – 2231  มีที่มาจากการที่ ฝรั่งเศสได้มาติดต่อค้าขาย เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรก และสอนวิชาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ต่อเรือ การก่อสร้าง พระองค์เกรงว่าคน ไทยจะหันไปเข้ารีตและนิยมฝรั่ง  ทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดี แตงหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็น ของตนเอง ชื่อ “จินดามณี” ใช้เริ่มอ่านจนกระทั่งหัดเรียนรู้วรรณคดีและอักษรศาสตร์ไทยชั้นสูง

 6. การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ  การศึกษานั้นมีสองภาคคือ ภาคการศึกษาสำหรับทวยราษฎร์ ได้แก่ ประถมศึกษา เป็นการศึกษาภาคบังคับ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญศึกษาและวิสามัญศึกษา  และภาคศึกษาพิเศษ เรียกว่ามัธยมศึกษา เรียนทั้งสามัญและวิสามัญ ไม่บังคับให้เรียนทุกคน

 7. การจัดการศึกษาที่เรียกว่า มาติกาศึกษา เป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ  การศึกษามีศูนย์กลางอยู่ที่วัดเหมือนสมัยอยุธยา ซึ่งการจัดการศึกษาที่เรียกว่า มาติกาศึกษา มีอยู่ 8 มาติกา คือ
  1 ตำบลที่เล่าเรียนคือที่ตั้งของวัด
  2 โรงเรียนคือ ที่เรียนในวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์
  3 นักเรียนและครู มี 3 ประเภทคือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
  4 เวลาเรียนคือ ตอนพระว่าง
  5 เครื่องเล่าเรียนคือ กระดานชนวน ดินสอพอ กระดาษข่ายเป็นต้น
  6 วิชาหนังสือคือ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ
  7 วิชาเลขคือ เลขคณิตวิธีต่าง ๆ
  8 ข้อบังคับการเรียนคือ ระเบียบวินัย การลงโทษ และการชมเชย

8. การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบาย ยกเหตุผล  
ตอบ  รัชกาลที่ 5 เพราะ จะได้ทัดเทียมประเทศอื่นเพื่อที่จะไม่ล้าหลัง และเป็นการป้องกันการล่าอาณานิคมจากชาติตะวันตก

9. การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบาย ยกเหตุผล 
ตอบ  เห็นด้วย เพราะ ปัจจุบัน มีสื่อต่างๆและเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ทำให้ง่ายและเอื้ออำนวยความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า  เป็นการเสริมสร้างความรู้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์ และการนำไปใช้ให้ได้ถูกทางตามความเหมาะสม

10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาเข้าสู่สมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างไร
ตอบ  มียุทธศาสตร์ที่สำคัญ  คือ การเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียน  พัฒนาศักยภาพของนักการศึกษา ครู และ บุคลากรทางการศึกษา  เพิ่มคุณภาพการศึกษา การจัดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู  จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัตน์   เพื่อพัฒนา การศึกษา  สนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปย่อเรื่องวิวัฒนาการศึกษาไทย

วิวัฒนาการศึกษาไทย

           การศึกษาไทยมีประวัติมาตั้งแต่ช่วงยุคโบราณ สุโขทัย อยุธยา กรุงธนบุรี รัตนโกสินทร์ และยุคสมัยใหม่
การศึกษาไทยสมัยโบราณ
          การศึกษาไทยสมัยโบราณ มีบ้าน วัด เป็นศูนย์กลาง บ้านเป็นสถานที่กล่อมเกลาจิตใจให้สมาชิกในบ้าน ส่วนวัดเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และมีพระคอยอบรมสั่งสอนธรรมะให้แก่พุทธศาสนิกชน ผู้ชายส่วนใหญ่นิยมบวชเรียน ผู้หญิงนิยมเรียนเย็บปักถักร้อย
การศึกษาไทยในสมัยสุโขทัย
           การศึกษาไทยในสมัยสุโขทัยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
1. ผู้ชายจะเน้นไปที่การบวชเป็นพระ
2. ผู้หญิงจะเน้นไปที่การเป็นกุลสตรีที่ดี
           ส่วนสถานที่ในการศึกษา มี
1. บ้านมีพ่อแม่คอยอบรมบ่มเพาะให้เป็นบุตรหลานที่ดี
2. วัด สำหรับผู้ชายจะศึกษาเกี่ยวกับพระธรรมปิฎก คุณธรรม จริยธรรมต่างๆ ส่วนผู้หญิงจะไปศึกษาที่หอเรือนเกี่ยวกับการทำอาหาร เย็บปักถักร้อย
3. สำนักพระราชบัณฑิต สำหรับศึกษาของผู้ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์
4. วัง เป็นสถานที่ศึกษาสำหรับเชื้อราชวงศ์ เพื่อการปกครองบ้านเมือง
การศึกษาไทยในสมัยอยุธยา
          การศึกษาไทยในสมัยอยุธยา แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. แบบทหาร เรียนเกี่ยวกับการใช้ดาบ ศึกษาวิชายุทธต่างๆ
2. พลเรือน พลเรือนชายจะนิยมบวชเรียน พลเรือนหญิงเรียนไปเพื่อออกเรือนเกี่ยวกับการบ้านการเรือน เย็บปักถักร้อย
           ในสมัยนี้มีการสร้างหนังสือชื่อจินดามณีขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และมีการตั้งโรงเรียนมิชชั่นนารีเป็นครั้งแรก
การศึกษาไทยในสมัยธนบุรี
           การศึกษาไทยในสมัยธนบุรี ศูนย์กลางการศึกษาจะอยู่ที่วัด พ่อแม่จะนำบุตรหลานไปฝากไว้ที่วัด และพระสงฆ์จะเป็นคนสอนหนังสือ ซึ่งหนังสือที่ใช้คือ หนังสือจินดามณี ส่วนด้านการงานอาชีพครอบครัวใดพ่อแม่ทำอาชีพใดก็จะสอนให้ลูกทำอาชีพนั้น และไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียนหนังสือ แต่จะนิยมให้เรียนเรื่องการเย็บปักถักร้อย การทำอาหาร การจัดบ้านเรือน และมารยาทของกุลสตรีไทย
การศึกษาไทยในสมัยรัตนโกสินทร์
           การศึกษาไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ ให้เด็กชายเข้าวัดเพื่อเรียนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ส่วนชั้นขุนนางจะเน้นการเรียนเรื่องปรัชญา แต่ในสมัยนี้ก็ยังไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียน
การศึกษาไทยในสมัยใหม่
             การศึกษาไทยในสมัยใหม่ หรือปัจจุบันนั้น ได้มีความสำคัญมาเริ่มตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการนำเอาการศึกษาแบบตะวันตกเข้ามา และที่สำคัญมีการเลิกทาส จึงทำให้การศึกษามีการเท่าเทียมกัน มีการให้ความสำคัญมากขึ้นในสมัยนี้ แต่ก็ยังมีข้อเสีย เพราะสมัยนี้เริ่มห่างหายจากการท่องจำ ไม่มีการลงโทษ ตี มีเทคโนโลยีเข้ามา ทำให้มีสิ่งเร้ามาเบี่ยงเบนความสนใจไปจากการเรียน และยุคสมัยนี้มีการเรียนติวเตอร์ ซึ่งทำให้ไม่มีการเรียนรู้ด้วยตังเอง และทำให้ความสำคัญของการศึกษาลดลง